วันหนึ่งผมได้เห็นภาพ สถานที่เที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ภาพความงามของแดนใต้ ที่ผมได้ผ่านตาจากงานรีวิวต่างๆทาง facebook และโลกonline ภาพที่สวยงามมากมายจนทำให้ผมค้าหาข้อมูลต่างๆ เพื่อ ออกไปเที่ยว ยังจังหวัดนครศรีธรรมราช
ติดตามข้อมูลนครศรีได้ที่ เพจ https://www.facebook.com/NakhonsiAwesomeplus

การเดินทางของผม ออกสู่สนามบินดอนเมืองโดย สายการบินที่คุ้มค่า สายการบินแอร์เอเชีย ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เป็นสายการบินที่ประหยัดเงินและตรงเวลา ทำให้การเดินทางมาถึงที่นครศรีธรรมราช ตามกำหนดตามแผนที่ผมวางไว้
เช็คตาราง การเดินทางได้ที่
เมื่อมาถึง ผม เช่ารถ เพื่อจะขับเที่ยวในจังหวัดนครศรีธรรมราช 3 วัน ผมออกเดินทางด้วยความหิว ยามเช้า สถานที่แรกที่ผมออกไปตามหา ไม่น่าแปลกใจ เลยว่าที่นั้น ต้องเป็นร้านอาหารเช้า ที่มาเติมเต็มความหิวของผม ร้านโกฮุย ติ่มซำ ชื่อร้านนี้ผมเก็บข้อมูลมา ก่อนออกเดินทาง ว่าเป็นร้านติ่มซำยามเช้าที่ไม่ควรพลาด เมื่อมานคร
ติ่มซำ หลากหลายน่าตา และรสชาติที่อร่อย คุ้มราคา ผมไม่แปลกใจว่าทำไมร้านนี้คนถึงแน่น ตลอดเวลา
ที่นี่นอกจาก ติ่มซำที่อร่อยแล้ว ร้านโกฮุย ติ่มซำ ยังมีชา กาแฟ และ ที่พลาดไม่ได้ก็เป็นบักกุดเต๋ ที่มาพร้อมน้ำซุปที่หอมอร่อย
เมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว ผมออกไปเช็คอินที่พัก พร้อมกับ เก็บของ ล้างเนิ้อล้างตัว พร้อมออกเดินทางไปทานอาหารกลางวัน ที่ร้านขนมจีนที่ขึ้นชื่อ ขนมจีนเมืองคอน
ถ้าเพื่อนๆคนไหนได้ มาเยือนทางใต้เมื่อไหร่จะต้อง ไม่ควรพลาดลองกินขนมจีนเมืองใต้ ขนมจีนเมืองคอนหรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่าขนมจีนพานยม ที่ร้านนี้มีน้ำยาให้เลือกมากมาย
โดยจะ มีเป็นชุด ขึ้นอยู่ว่าเราจะมาทานกี่คน สำหรับ น้ำยามีให้เลือกถึง 4 ชนิด คือ น้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำพริกและแกงไตปลา มาพร้อมผักสดๆ ให้เลือกทานกันอย่างจุใจ ที่สำคัญเส้นขนมจีนที่นี่เป็นเส้นสดที่ทำกันใหม่เลย ยิ่งทานคู่กับน้ำยา แล้ว ยิ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี
ถ้าใครไปจังหวะพอดี จะเจอมังคุดคัดของดีของจังหวัดนครศรีธรรมราช มาขายในร้านให้ซื้อซิมกันได้
เมื่อทานอาหารเสร็จ ผมออกเดินทางไปที่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็น มิ่งขวัญชาวเมือง นครศรีธรรมราชตลอดจนพุทธศาสนิกชน ทั้งหลาย สัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่รู้จัก กันแพร่หลายก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องจากเป็นที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศ จดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็น มิ่งขวัญชาวเมือง นครศรีธรรมราชตลอดจนพุทธศาสนิกชน ทั้งหลาย สัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่รู้จัก กันแพร่หลายก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องจากเป็นที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศ จดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้
ตามตำนานกล่าวว่า วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร สร้างขึ้นครั้งแรกประมาณ ปี พ.ศ. 854 ด้วยศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัย (หลายคนเชื่อว่ามีลักษณะคล้ายพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี) ภายในบรรจุพระทันตธาตุ (ส่วนฟันของพระพุทธเจ้า)
ในปี พ.ศ. 1093 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ทำการสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมกับสร้างเจดีย์องค์ใหม่ทรงศาญจิครอบพระบรมธาตุองค์เดิม
ต่อมาในปี พ.ศ. 1770 มีพระภิกษุจากลังกามาบูรณะองค์พระบรมธาตุให้เป็นแบบทรงลังกาหรือทรงโอคว่ำดังที่เห็นในปัจจุบัน
นอกจาก พระบรมธาตุเแล้วยังมีเจดีย์องค์เล็กที่รายล้อมรอบองค์พระธาตุมากมาย เจดีย์นี้เรียกว่า องค์เจดีย์บริวาร ซึ่งมีทั้งหมด 149 องค์เจดีย์บริวาร คือ เจดีย์ที่ลูกหลานบรรพบุรุษ ได้สร้างไว้สืบต่อกัน มาเรื่อยๆเพื่อบรรจุอัฐิของญาติ ผู้ล่วงลับไปแล้วโดยอธิษฐานว่าขอให้ญาติของตนได้มาเกิด ในศาสนา ของพระพุทธองค์อีกครั้งในภพหน้า นอกจากความหัศจรรย์ของ พระธาตุไร้เงาแล้ว เจดีย์บริวารที่ เรียงราย ล้อมรอบองค์พระบรมธาตุเป็นสิ่งมหัศจรรย์ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นจากที่ใดเช่นกัน
ที่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์วัดพระมหาธาตุ ที่เปิดให้ เข้าชมกันฟรี ด้านในเสียดายห้ามถ่ายรูป แต่หากเพื่อนเข้าไปชมยังด้านใน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะรวบรวมข้อมูลและ ของเก่าแก่หลายอย่างที่น่าสนใจ มากมาย เรียกว่าถ้ามาที่นี่ ต้องไม่พลาด พิพิธภัณฑ์วัดพระมหาธาตุเลย
ผมเข้ามายังด้านในวัด แม้ด้านนอกจะร้อนอบอ้าว แต่ผมรู้สึกสงบมาก และเย็นสบายมาก เมื่อเข้าไปยังด้านใน เมื่อเข้ามาในนี้จะพบกับ
ท้าวขัตตุคาม-รามเทพ : ในวิหารพระม้าที่เป็นบันไดทางขึ้นสู่องค์พระบรมธาตุ
ด้านซ้าย-ขวา มีรูปปั้นของเทพผู้พิทักษ์คือ ท้าวขัตตุคาม-รามเทพ ประดิษฐานอยู่ขนาบข้างประตูทางเข้า-ออก องค์พระธาตุ ท้าวขัตตุคาม-รามเทพ เป็นเทพที่เชื่อว่าคือท้าวจตุคามรามเทพ อันลือลั่นแห่งเมืองนคร นอกจากเทพทั้งสองแล้วที่นี่ยังมีผู้พิทักษ์อื่นๆ อาทิ ท้าวจตุโลกบาล นาค ครุฑ สิงห์ เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมี สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดพระธาตุอีกเช่น
1. พระบรมธาตุเจดีย์
2. วิหารพระทรงม้า
1. พระบรมธาตุเจดีย์
2. วิหารพระทรงม้า
3. วิหารเขียน
4. วิหารโพธิ์ลังกา
5. วิหารสามจอม
6. วิหารพระแอด
7. วิหารทับเกษตร
8. วิหารคด
9. วิหารธรรมศาลา
10. วิหารหลวง
11. วิหารโพธิ์พระเดิม
12. พระอุโบสถ
13. เจดีย์รายรอบพระบรมธาตุเจดีย์
14. โบราณวัตถุภายในวัด
มณฑปพระพุทธบาท : เป็นมณฑปตั้งอยู่บนเนิน ภายในประดิษฐาน รอยจำลองพระพุทธบาท ยาว 74 นิ้ว กว้าง 44 นิ้ว ตรงบันไดทางขึ้นมีพระบุญมากพระพุทธรูปหินทรายที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ชาวบ้านนิยมไปบนบานขอบุตรและโชคลาภ นอกจากนี้บนมณฑปยังเป็นจุดชมองค์พระธาตุในมุมสูงอีกด้วย
บริเวณวัดพระธาตุ ยังจำหน่าย สินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (OTOP)เครื่องถมนคร งานฝีมือโบราณที่ ถือเป็นเอกลักษณ์ของนครศรีธรรมราช เครื่องถมหลากหลายทั้งแหวน สร้อย กำไล พาน ขันและอื่นๆ อีกมาก
โชคดีที่ท้องฟ้ายามเย็นของวันนี้ ท้องฟ้าเปิด ทำให้ผมเห็นแสงยามเย็นที่ตัดกับแสงไฟของวัดที่สวยงาม แม้แสงของวันจะกำลังลาลับไป แต่กลับแปลเป็นความงดงามยามค่ำคืนมาแทนที่
แม้เพียง1 วันที่ผมได้มาสัมผัส วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผมได้บอกกับตัวเอง ว่าโชคดีที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย ที่ได้เห็นความสวยงามเหล่านี้กับตาตัวเองไม่ต้องออกเดินทางไปยังต่างประเทศที่ไกลแสนไกล
แม้ กลางคืน ทางวัด จะไม่อนุญาติให้คนภายนอกเข้าไปด้านในของวัด แต่ แค่เพียงแค่ผมเดินรอบๆ ยามค่ำคืนในวันนี้ ก็ทำให้ผมได้เห็นความสวยงามที่ แตกต่างไม่เหมือนกับเมื่อตอนกลางวัน แม้วันนี้ ทางวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จะปรับปรุงซ่อมแซม ก็ตาม แต่มิได้ทำให้ความงดงามลดลงไปด้วยเลย
ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ
ประเพณีผ้าขึ้นธาตุ หมายถึง การนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันสำคัญทางศาสนา ชาวนครได้ร่วมมือร่วมใจกันบริจาคเงินตามกำลังศรัทธานำเงินที่ได้ไปซื้อผ้ามาเย็บต่อกันเป็นแถวยาวนับพันหลา แล้วจัดเป็นขบวนแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ผ้าที่ขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์เรียกว่า “ผ้าพระบฎ” (หรือ พระบต) นิยมใช้สีขาว สีเหลือง สีแดง สำหรับผ้าสีขาวนิยมเขียนภาพเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบรรพชา ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองนครศรีธรรมราช แก่นแท้อยู่ที่การบูชาพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด โดยใช้องค์พระบรมธาตุเจดีย์เป็นตัวแทน
เครดิตภาพ KOSIN SUKHUM
ด้วยความเหนื่อยล้า และหิวโซของวัน ผมออกเดินทางไปทานอาหารค่ำที่ ร้านโรตีป้าหนอม สำหรับร้านโรตีป้าหนอม นั้นที่นครศรีธรรมราชมีด้วยกันหลายสาขา แล้วแต่เราจะเลือก ทานกันได้เลยครับ เรื่องรสชาติผมว่าคงพอๆๆกัน แต่วันนี้ผมเลือกมาสาขาแรกเลย สำหรับร้านโรตีป้าหนอม เริ่มขายเวลา 16.00น จะมีโรตี และติ่มซำ ให้เลือกทานกัน
สำหรับเมนูที่ไม่ควรพลาด และขึ้นชื่อ คือข้าวมันแกงครับ รสชาติกลมกล่อมเลยทีเดียว จานนี้ผมทานหมดเร็วมาก อาจจะเพราะด้วยความหอม ของน้ำแกง ที่เข้ากับข้าวสวยร้อนๆก็เป็นได้
ตามด้วยบักกุ๊ดเต๋ และติ่มซำ แบบเต็มที่
และที่ไม่ควรพลาด ต้องมาทานโรตีของขึ้นชื่อของร้านโรตีป้าหนอม
ติ่มซำน่าทานมากมายต่างถูกนำมาวาง รสชาติอร่อยเลยทีเดียวครับ สำหรับวันแรกที่นครศรีผมได้ทานอาหารหลากหลาย และยังได้มาสัมผัสความงดงามของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดที่ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้
เช้าวันที่สอง วันนี้ ผม ตื่นมาตอนเช้าเพื่อจะมาทานร้านโกปี๊ ร้านที่ดังแห่งเมืองนคร สำหรับร้านที่ผมมาทานเป็นร้านโกปี๊ สาขาแรก
คำว่า โกปี๊ นี้ เป็นภาษาจีนแปลว่า กาแฟ นั่นเอง ซึ่งถ้าพูดถึงในสมัยก่อนต้องบอกว่า ร้านโกปี๊นี้ เป็นเสมือนห้องรับรองแขกบ้านแขกเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราชเลยทีเดียว
และที่นครศรีธรรมราช ผู้คน จะมาทานอาหารเช้ากัน และหาโกปี๊กิน พร้อมนั่งคุยเรื่องต่างๆกันในช่วงเช้า ในร้านโกปี๊ นอกจากกาแฟแล้ว ก็ยังมีอาหารเช้า หลากหลายให้ได้เลือกรับประทานกันด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็น บักกุดเต๋ ข้าวขาหมู ข้าวหมูอบ ซาลาเปา กาแฟสด หรือ โกปี๊
ขาหมู ที่ร้านโกปี๊ อร่อยหอม นุ่มมากครับ ยิ่งได้ทานกับข้าวสวยร้อนๆแล้ว ยิ่งอร่อยมากเลยทีเดียว
อีกเมนูนึง โจ๊ก แม้ที่ร้านโกปี๊ จะไม่ได้เด่นเรื่องโจ๊ก แต่ถือเป็นอีกเมนูนึงที่ ทางร้านทำออกมาได้อร่อยเลยทีเดียว ทั้งข้าวที่นุ่มหอม เนื้อหมูที่อร่อยโดดเด่น ไม่ควรพลาดเมนูนี้เลยครับ
สุดท้านปิดท้ายด้วยกาแฟ ของขึ้นชื่อที่มาพร้อมความหอม และรสชาติที่กลมกล่อมอร่อย ในราคาที่ไม่แพง เรียกว่า ถ้าใครมาที่นครศรีผมแนะนำให้มาทานอาหารที่ร้านโกปี๊เลยครับ มีทั้งของคาวและหวาน ที่สำคัญ มื้อนี้ทำผมกินไม่หยุดเลย เพราะอร่อยทุกอย่างเลยครับ
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว ผมออกมาช้อปปิ้งเลือกดูเครื่องเงินที่ถนนสายหัตถกรรมท่าช้าง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยถนนเส้นนี้จะอยู่ใกล้ๆกับ ศาลหลักเมือง ครับ ถ้าจอดรถแถวๆนั้น ก็สามารถเดินมาได้ใกล้ๆ
ร้าน แรกที่ ผม เข้ามาเลือกดูสินค้า ชื่อร้าน 12 นักษัตร เป็นร้านที่รวบรวมของฝากนครศรีไว้มากมาย ในราคาที่ไม่แพง รวมทั้งสินค้า otop ที่น่าสนใจ
โดย ร้านสิบสองนักษัตร จะให้บริการนักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 8.00 น. ถึงประมาณ 18.00 น. ทุกวัน
สำหรับ ถนนท่าช้าง เป็นถนนย่านงานหัตถกรรมเต็มไปด้วยงานฝีมือของชุมชนจากหลายหมู่บ้านในจังหวัด นครศรีธรรมราช มีร้านค้า และประเภทของสินค้ามากมายนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ยังมีร้านขายผ้าทอเมืองนคร เครื่องเงิน เครื่องถมเงินถมทอง เครื่องจักสาน สินค้าพื้นเมือง เลือกซื้องานหัตกรรม เครื่องถมเงินถมทอง เครื่องเงิน สินค้าพื้นเมือง และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย
เครื่องเงินที่สวยงาม ลดราคามากมาย ให้เลือกซื้อได้
ที่ใกล้ๆ ถนนท่าช้าง ยังมี มัสยิดซอลาฮุดดีน ที่น่าสนใจ
มัสยิดซอลาฮุดดีนแยกมาจากมัสยิดญาเมี๊ยะ การสร้างของมัสยิด สร้างด้วยไม้ ใต้ถุนสูงประมาณ 2.50 เมตร มีบันไดขึ้นทางด้านตะวันออก ห่างจากถนนราชดำเนิน 25 เมตร ภายในรั้วมัสยิดสร้างเป็นอาคารเล็ก ๆ แบบพักร้อนด้วย เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า 9 x 12 เมตร พื้นและฝาใช้กระดาน มีหน้าต่างทั้งหมด 12 ช่อง หลังคามุงด้วยกระเบื้องไม่มีฝาเพดาน ต่อมุขออกไปทางตะวันตกของอาคารเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 3 x 2 เมตร เป็นที่ตั้งมิมมัร
ใน พ.ศ. 2598 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานที่ดินวัดท่าช้างร้าง ที่สร้างมัสยิดซอลาฮุดดีนหรือมัสยิดท่าช้างเป็นสมบัติซอลาฮุดดีนโดยการทำยาติกรรมต่อกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ
บ้านหนังตะลุง ลุงสุชาติ
ประวัติ บ้านหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สิน อยู่ที่บ้านเลขที่ 10/18 ถนนศรีธรรมโศก 3 โดย ลุงสุชาติ ทรัพย์สิน เป็นศิลปินหนังตะลุงและช่างทำ รูปหนังตะลุงฝีมือดีเยี่ยมของเมืองนครศรีธรรมราช ที่ริเริ่มและสืบทอดวัฒนธรรมการทำตัวหนังตะลุง รวมไปถึงการเชิดหนังตะลุงจน ที่เป็นที่ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ ทั้งยังทำนุบำรุงความเป็น ไทยคงใช้เครื่องดนตรีไทยที่เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมของ ชาติไทย โดยได้รับคัดเลือกให้เป็นศิลปินท้องถิ่นผู้ซึ่งได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (ไทยแลนด์ทัวริสซึ่มอวอร์ด) ประจำปี 2539 รางวัลดีเด่นประเภท วัฒนธรรมและโบราณสถาน
พิพิธภัณฑ์หนังตะลุง จะเป็นบ้านไม้สองชั้น ด้านบนจัดแสดงตัวหนังตะลุงแบบต่างๆมากมาย มีตัวหนังตะลุงจากต่างประเทศ เช่น อินเดีย อินโดจีน ตุรกี มีตัวหนังในยุคต่างๆ เช่น ตัวหนังตะลุงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2


บ้านหนังตะลุงสุชาติเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายตัวหนังตะลุงและ หนังใหญ่ อีกทั้งยัง มีการแสดงในลักษณะสาธิตในบริเวณบ้านหนังตะลุง นอกจากนี้ยังได้แบ่งพื้นที่เพื่อจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดง เครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้าน และพิพิธภัณฑ์หนังตะลุงนานาชาติ
สำหรับ การทำต้องอาศัยความชำนาญ ไม่ว่าจะเป็นการทำลาย การลงสี การตอกหนังต่างๆ ดังนั้นกว่าจะได้หนังตะลุงที่สวย แต่ละชิ้นนั้นเลยต้องใช้เวลาขั้นตอนมากมาย เลยทีเดียว
การมาที่บ้านหนังตะลุงสุชาติ ทำให้ผมได้ ความรู้ เกี่ยวกับหนังตะลุงมากมาย รวมทั้งประวัติศาสตร์ในสมัยก่อนที่ บอกเล่าเรื่องราว ผ่านหนังตะลุง
การลงสีที่ต้องใช้ ความชำนาญ เพื่อให้ออกมา ได้สีที่ตรงมากที่สุด
สุดท้าย การมานครศรีธรรมราช ของผมได้ ทั้งความรู้และได้พบที่เที่ยวใหม่ๆมากมาย รวมทั้งอาหารที่มาพร้อมความอร่อยเลยจริงๆ แม้เวลาที่ผมจะอยู่ที่นี่จะไม่ได้นานมาก แต่ก็คุ้มค่า สำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่ นครศรีธรรมราชแห่งนี้
แสดงความคิดเห็น