แบกเป้ เยือน นครวัด นครธม ดินแดนอารยธรรม 3วัน2คืน ด้วยงบไม่เกิน 4999 บาท

แบกเป้เยือนนครวัด ดินแดนแห่งอารยธรรม  

วันหยุดยาว ผมไม่รอช้าที่จะท่องเที่ยวตามใจฝัน จัดแจงหาสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย ด้วยเวลาที่กระชั้นชิดกับการเดินทางที่ไม่ไกลมากนัก  ใช้เวลาเพียงครู่หนึ่ง ผมก็ได้จุดหมายปลายทางที่ตรงกับใจ 

นครวัด สถานที่ที่ผมฝันว่าจะต้องไปเยือนซักครั้ง แล้วความฝันของผมก็จะเป็นจริงในอีกไม่กี่วันนี้ ผมเตรียมข้อมูลต่างๆ จับเสื้อ หยิบกล้องตัวเก่งลงกระเป๋าใบน้อยๆ ผมพร้อมออกเดินทางแล้ว ^^ 

ผมเลือกเปิด roaming กับ dtac เพราะง่ายไม่ยุ่งยาก แถมอินเตอร์เน็ตรวดเร็วทันใจ สามารถอัพเดทภาพ เรื่องราวต่างๆ ผ่านทางเฟสบุ๊คได้อย่างทันที ที่สำคัญมีบริการ dtac worry free เที่ยวได้แบบมั่นใจ ไม่ต้องกลัวเน็ตรั่ว และสามารถควบคุมค่าใช่จ่าย data roaming ได้ด้วยตัวเอง บริการฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถสมัครคู่ กับ แพ็คเก็จอินเทอร์เน็ต 3 วันเพียง 1299บาท สนใจดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/1cIB3Dh 

การเดินทางมานครวัดมีหลายวิธี ทั้งทางเครื่องบิน สามารถบินมาลงสนามบินเสียมราฐ (เสียมเรียบ) ทางรถโดยสารประจำทาง หรือรถบัสของบ่อน ส่วนผมเลือกขับรถมาเอง แล้วมาจอดที่อรัญประเทศ 

ผมขับรถจากกรุงเทพ ผ่านมาตามเส้นทาง มีนบุรี ฉะเชิงเทรา พนมสารคาม สระแก้ว อรัญประเทศ ตลาดโรงเกลือ ระยะทางรวมประมาณ 250กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชั่วโมงถึงชายแดน หาที่ฝากรถแล้วข้ามตม.ไทย จากนั้นขึ้นรถแท็กซี่ รถของที่นี่เป็นรถ Camry รุ่นเก่า สภาพดี ผมนั่งชมธรรมชาติริมข้างทาง ถนนเป็นถนนลาดยาง สลับกับถนนลูกรัง ฝุ่นตลบ ผมหลับๆตื่นๆ เพียง 2 ชั่วโมง ก็มาถึงตัวเมืองเสียมเรียบ แท็กซี่จอดระหว่างทาง เปลี่ยนเป็นรถตุ๊กตุ๊ก จะพาไปส่งที่ที่พักที่ผมจองไว้ผ่าน Agoda ผมเลือก Petit Villa Boutique & Spa   

      คนขับรถตุ๊กตุ๊กเจรจาเสนอทริปท่องเที่ยวให้ คุยไปคุยมา ผมตกลงใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กต่อในนำเที่ยว  half day trip ราคา 400 บาท  ผมเก็บกระเป๋าเข้าห้องพัก แล้วออกลุยเลย 

สนใจติดตาม เพจ www.facebook.com/yhibklong 

เวป www.yhibklong.com

        วัดแห่งแรกที่ผมได้มาเป็นวัดเล็กๆ ริมทาง วัดนี้ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่าชื่อวัดอะไร (ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ถ้ามีข้อมูลจะมาแจ้งนะครับ) เมื่อผมเข้าไปสิ่งที่ผมรู้สึก คือ ที่นี่มีพลังบางอย่าง

ศรัทธาบางอย่างที่ดึงดูดผมซะแล้ว

Wat Preah Prom Rath   รถตุ๊กตุ๊กพาลัดเลาะถนนเล็กๆ จนมาถึงวัดที่สอง วัดนี้มีอายุราวๆร้อยปี  อยู่ใกล้ๆ Pub Street

พระพุทธรูป ศิลปะขอม สวยงามแปลกตา ผมไม่เคยเห็นพระพุทธรูปแบบนี้ ภายในโบสถ์โปร่งโล่งสบาย เหมือนวัดบ้านเรา ผมกราบไหว้ แล้วรู้สึกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก

พนมบาเค็ง (Phnom Bakheng)  รถตุ๊กตุ๊กพาผมมาซื้อตั๋วเข้านครวัดเพื่อใช้สำหรับวันพรุ่งนี้ แนะนำว่าให้มาซื้อตั๋วก่อน เพื่อตอนเช้าจะได้ไม่เสียเวลาในการชมพระอาทิตย์ ราคาตั๋วคนละ $20 ตั๋วนี้สามารถใช้เข้าชมปราสาทพนมบาเค็งด้วย  รถตุ๊กตุ๊กพาเข้ามาได้ครึ่งทาง จากนั้นจอด แล้วผมต้องลงเพื่อเดินขึ้นเขาไปอีกไม่ไกลนัก แล้วต่อแถวเพื่อขึ้นบันไดไป การแต่งกายมาปราสาทต้องแต่งตัวสุภาพเรียบร้อยนะครับ เจ้าหน้าที่ที่นี่เข้มงวดมาก

เมื่อผมขึ้นมาถึง มองจากข้างบน จะเห็นนครวัดอยู่ไกลๆ ความงดงามอลังการที่พาให้ผมไปสัมผัส วิวธรรมชาติที่อยู่ข้างหน้าผม มันช่างน่าประทับใจยิ่งนัก

     ยามสนธยา ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีส้ม ถึงเวลาที่ผมต้องบอกลาที่นี่แล้ว ผมหยุดยืนซึมซับบรรยากาศรอบๆตัวอยู่ซักครู่ เสียงเจ้าหน้าที่ก็ดังมา บอกให้รีบลงไปได้แล้ว เดี๋ยวมืดจะเดินทางกลับลำบาก จากนั้นผมเดินลงมา นัดรถตุ๊กตุ๊กพาส่งกลับที่พัก 

        เมื่อคืนผมหลับไปด้วยอาการเหนื่อยล้า ตื่นเช้ามาอีกทีตีสี่ ผมนัดรถตุ๊กตุ๊กคันเดิมให้มารับตีห้าเพื่อไปนครวัด ที่รีสอร์ทเตรียมอาหารเช้าให้ผม แนะนำว่าต้องบอกพนักงานว่าขอใส่กล่อง (breakfast box) นะครับ จะได้เอาไปทานตอนชมพระอาทิตย์ 

  ก้าวแรกที่ผมเข้ามาที่นครวัด ความงดงามอลังการที่แฝงไปด้วยประวัติศาตร์และอารยธรรมของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ พาให้ผมได้มาสัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

  

มุมมหาชนที่ทุกคนต่างมาจับจองที่ริมสระน้ำ เพื่อชมแสงอาทิตย์สะท้อนผิวน้ำ สีทองประกาย ฉากหลังเป็นนครวัด ซึ่งผมก็เป็นอีกคนที่จะไม่พลาดเก็บภาพสวยๆไว้ และแชร์ให้ทุกคนได้เห็นกัน

ทางเข้านครวัด มีผู้คนมากมายหลั่งไหลมากัน

ภาพแกะสลักบนฝาผนัง ที่ถ่ายทอดเรื่องราว ต่างๆ

บันไดทางขึ้นของปราสาทช่างสูงชัน ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า คนสมัยก่อนตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ทำไมถึงสร้างบันไดที่ก้าวเล็กๆถี่ แต่มีความสูงชันเพียงนี้

บริเวณรอบๆนครวัด เป็นลานกว้าง พื้นที่ที่นี่กว้างใหญ่ทีเดียว สมัยก่อนคงเดินกันเหนื่อยเชียวแหละ

จิตรกรรมฝาผนังที่นครวัด ที่สวยงาม 

เดินเข้ามายังชั้นใน ผมพกความตื่นเต้นเข้ามาพร้อมกับการก้าวย่าง เพื่อชื่นชมความงามอย่างช้าๆ ความงดงามตรงหน้าผม มันช่างสวยเสียเหลือเกิน 

ความยิ่งใหญ่ในสมัยก่อน มันทำให้ ผมย้อนคิดว่า ถ้าเราได้เกิดมาในสมัยนั้นผม คงได้เห็น ความงดงามที่สมบูรณ์ อาจจะทำเอาหัวใจผมพองโตเพราะความสวยงามเลยก็ได้ 

รูปปั้นแกะสลักนางอัปสรในท่วงทางต่างๆ

ข้างๆมีวัดเล็กๆ อยู่ ชีพราหมณ์ บวชใหม่เดินตามพระสงฆ์ เพื่อเข้าพิธี

ผมเดินมาถึงเทวสถานอันยิ่งใหญ่ ปราสาทบายน ตื่นตากับความอลังการงานสร้าง

พระปรางค์ เป็นหินทรายที่สลักเป็นรูปพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ทั้งสี่ทิศ

ที่นี่มีช้างให้บริการ สำหรับคนที่ไม่ต้องการเดินเอง ก็สามารถนั่งช้างวนชมรอบๆปราสาทได้

ใกล้ๆ ปราสาทบายน จะมีปราสาท ที่สวยงามอีกแห่ง คือปราสาทบาปวน

ปราสาทแห่งนี้ เคยได้ชื่อว่า สวยที่สุด ในกลุ่มปราสาทนครวัด และปราสาทแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก 

ความยิ่งใหญ่และสวยงาม ไม่แพ้ที่ใดๆในโลก

หากเพื่อนๆมีเวลา อยากบอกเพื่อนๆว่าอย่าได้พลาดปราสาทแห่งนี้ไปเลย เพราะมันสวยงามจริงๆ แม้ผมจะมีเวลาเพียงไม่นานในปราสาทบาปวน  แต่ความสวยงามก็ทำให้ผมได้แต่เก็บความประทับใจผ่านทางภาพถ่ายไว้ เพื่อย้อนวันเวลาเวลาที่คิดถึง

จากนั้น ผมเดินทางไปยัง ปราสาทตาพรหม แค่ทางเข้าปราสาทตาพรหม ก็สวยแล้ว

ภายใน ปราสามตาพรหม ใหญ่มาก มีทาง ให้เราเดิน สองทางคือ เดินแบบสั้นๆ กับเดินแบบเต็มๆ  ถ้าใครอยากชมความงดงามนานๆ ผมแนะนำให้เลือก ทางแบบระยะยาวครับ 

แม้ภายในจะโดนทำลายไปเยอะมากมาย แต่ ก็ยัง เห็น ความสวยงามที่หลงเหลืออยู่ อีกมาก

ที่นี่จะมีจุดเด่นอีกอย่างคือมีต้นสะปงไม้ขนาดใหญ่ที่มีรากไม้ปกคลุมปราสาท

ถ้าใครมีแรง เหลือ ผมแนะนำให้เดินเล่นรอบๆ เพราะ บริเวณรอบๆ นั้น ยังมีอีกหลากหลายมุมที่สวยงาม

ความยิ่งใหญ่ในอดีต ที่มีค่ามากมาย คงได้แต่ขอบคุณคนสมัยก่อนที่สร้างสิ่งงดงามเช่นนี้ ให้ลูกหลานได้กลับมาชื่นชมอีกครั้ง...นครธม

ผมขอลาไปด้วยภาพ night market ที่ pub street ที่นี่คล้ายถนนข้าวสารบ้านเรา มีคนต่างชาติมากมายมีร้านอาหาร ผับนั่งฟังเพลงผมเดินเล่นชมบรรยายกาศ แม้ฝนจะตกปรอยๆแต่ผมก็มีความสุข ขอบคุณการเดินทางครั้งนี้ ประเทศเพื่อนบ้านของเรามีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะ

จบทริป สรุปค่าใช้จ่าย ครับ  (ไม่รวมค่าแพ็กเกจ dtac data roaming)  

	ต่อคน
ค่าน้ำมันไปกลับ	300
ค่าเข้า (ไม่ต้องเสีย)	200
ค่ารถtext เข้าเสียมเรียบ	326
ค่ารถตุ๊กๆ รวมทิป	277
ค่ารถ texi กลับด่าน	250
ค่าเข้านครวัด	652
ค่าที่พัก 2 คืน	1,695
ค่าอาหาร 4 มื้อ+ขนม	905
กางเกง	41
Total	4,646